หัวหน้าพรรค
2.พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน
พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน |
|
ผู้นำ | วรรณรัตน์ ชาญนุกูล |
ประธานที่ปรึกษา | สุวัจน์ ลิปตพัลลภ |
เลขาธิการ | ประเชิญ ติยะปัญจนิตย์ (รักษาการ) |
โฆษก | เทพสิทธิ์ ประวาหะนาวิน |
นโยบาย | หันหน้าเข้าหากัน สร้างประเทศไทย รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย พลังไทยสร้างชาติ
1. สังคมมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง เศรษฐกิจยั่งยืน
2. สุขภาพดีทั่วไทย กีฬาสร้างชาติ ประชาชนมีคุณภาพ ขยายระบบสวัสดิการสังคม
3. เกษตรกรไยต้องรวย ค่าแรงดีมีงานทำ สร้างเถ่าแก่เงินล้าน เชื่อมสัมพันธ์การค้าไทยสู่ตลาดโลก
4. ทุกทิศทุกทางเดินทางทั่วถึง ตรึงราคาแก๊ส-น้ำมัน เพิ่มรายได้การท่องเที่ยว เพิ่มเงินอุดหนุนท้องถิ่น[1] |
คำขวัญ | ประชาสมคิด เพื่อชีวิตสมหวัง |
ก่อตั้ง | 3 ตุลาคม พ.ศ. 2550 |
| 514/1 ถ.หลานหลวง สี่แยกมหานาค ดุสิต กทม
3.พรรคประชากรไทย
|
พรรคประชากรไทย (อังกฤษ: Thai Citizen Party - TCP, ย่อว่า: ปชท.) เป็นพรรคการเมืองในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2525[1] ณ บริเวณสนามชัยข้างพระบรมมหาราชวัง โดยมีนายสมัคร สุนทรเวชเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อการเลือกตั้งในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2522
โดยผลการเลือกตั้งในครั้งนั้นพรรคประชากรไทยได้รับเลือกตั้ง 29 ที่นั่ง จากจำนวน 32 ที่นั่งในกรุงเทพมหานคร และอีก 3 ที่นั่งในต่างจังหวัด
ต่อมาเมื่อพรรคประชากรไทยได้จดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองตามกฎหมายแล้ว เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2525 จึงได้ส่งข้อมูลสมาชิกและการดำเนินกิจการของพรรคให้กับกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่เป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง จนกระทั่งเมื่อเกิดมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 พรรคจึงได้จัดส่งข้อมูลการดำเนินกิจการของพรรคให้กับกกต.โดยตรงในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองตามกฎหมาย และกระทรวงมหาดไทยจะได้จัดส่งข้อมูลเดิมที่มีอยู่ให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้งต่อไป
พรรคประชากรไทย จัดเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก มีฐานเสียงที่สำคัญอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีบุคคลสำคัญอันเป็นเสมือนเอกลักษณ์ของพรรค คือ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค แต่หลังจากปี พ.ศ. 2540 แล้ว พรรคประชากรไทยมีบทบาทการเมืองในระดับประเทศลดลง อีกทั้งมีสมาชิกพรรคจำนวน 12 คน หันไปให้การสนับสนุนนายชวน หลีกภัย ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในสมัยที่ 2 ด้วย ซึ่งขัดต่อความเห็นของนายสมัคร หัวหน้าพรรค ซึ่งเรียกกันว่า "กลุ่มงูเห่า" ในปี พ.ศ. 2543 นายสมัคร ได้ลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครก็ไม่ได้ลงสมัครในนามของพรรค
พรรคประชากรไทย ได้ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2548 และปี พ.ศ. 2549 แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้งเลยแม้สักที่นั่งเดียว
ปัจจุบัน มีหัวหน้าพรรค คือ นายสุมิตร สุนทรเวช น้องชายของนายสมัคร ที่ทำการพรรคตั้งอยู่ที่ ถนนศรีวรา แขวงวังทองหลาง เขตบางกะปิ กทม.
4.พรรครักประเทศไทย
พรรครักประเทศไทย |
|
ผู้นำ | ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ |
เลขาธิการ | ชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ |
โฆษก | วินัย ตั้งใจ |
นโยบาย | เมื่อทุกพรรคต้องการเป็นรัฐบาลเพื่อให้ได้เข้าไปบริหารประเทศ ได้สัมปทานประเทศไทย ผลประโยชน์มหาศาลนี้ ต้องมีคนตรวจสอบ ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น เกิดมาทุกยุค ทุกสมัย ทุกรัฐบาล พรรครักประเทศไทยขอเสนอตัวเป็นฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบการทำงาน ติดตามนโยบายต่างๆ ที่บรรดานักการเมืองให้คำมั่นสัญญาเมื่อได้เข้าไปบริหารประเทศ ประชาชนและประเทศชาติจะได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง[1] |
ก่อตั้ง | 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 |
สำนักงานใหญ่ | 188 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพ |
|
5.พรรคพลังชค |
พรรคพลังชล |
|
ผู้นำ | รศ.เชาวน์ มณีวงษ์ |
ประธานที่ปรึกษา | สนธยา คุณปลื้ม |
เลขาธิการ | ปิลันธน์ดิลก จิตรธรรม |
นโยบาย | มีส่วนร่วมด้านการเมือง กระจายอำนาจ พัฒนาการเกษตร อุตสาหกรรม-ส่งออก การท่องเที่ยว เศรษฐกิจพอเพียง สถาบันครอบครัว พัฒนาคุรภาพชีวิต บริการสาธารณสุข การอาชีพ ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ปราบปรามยาเสพติด ส่งเสริมคุณภาพครู พัฒนาหลักสูตร พัฒนาระบบโลจิสติกส์ บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พลังงานทดแทน สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์ ความร่วมมือระหว่างประเทศ[1] |
คำขวัญ | เทิดทูนสถาบัน ยึดมั่นประชาชน |
ก่อตั้ง | 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 |
สำนักงานใหญ่ | 36/2 ถนนบางแสนล่าง ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี |
พรรคพลังชล มีรองศาสตราจารย์ เชาว์ มณีวงษ์ เป็นหัวหน้าพรรค และนายปิลันธน์ดิลก จิตรธรรม เป็นเลขาธิการพรรค [3] ซึ่งพรรคพลังชลมีคำขวัญว่า "เทิดทูนสถาบัน ยึดมั่นประชาชน"[4] โดยมีฐานเสียงสำคัญในเขตเลือกตั้งจังหวัดชลบุรี และพื้นที่ ภาคตะวันออก |
6.พรรคประชาธิปัตย์
พรรคประชาธิปัตย์ |
|
ผู้นำ | อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ |
ประธานที่ปรึกษา | ชวน หลีกภัย |
เลขาธิการ | สุเทพ เทือกสุบรรณ |
โฆษก | บุรณัชย์ สมุทรักษ์ |
นโยบาย | ครอบครัวต้องเดินหน้า เพิ่มรายได้และลดรายจ่ายด้วยการมอบเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุทุกคน มีไฟฟ้าฟรีให้ผู้ที่ใช้น้อย ตรึงราคาน้ำมันดีเซลและก๊าซหุงต้ม เพิ่มเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา และจัดการปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด เศรษฐกิจต้องเดินหน้า ยกระดับความเป็นอยู่ด้วยการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เพิ่มเงินกำไรในการประกันรายได้เกษตรกร ปรับโครงสร้างหนี้นอกระบบ ให้เกษตรกรมีที่ทำกิน และมีบำเหน็จบำนาญให้ประชาชนทุกคน ประเทศต้องเดินหน้า พัฒนาศักยภาพของประเทศด้วยการเร่งจัดกาพลังงานทดแทน สร้าบงเขตเศรษญกิจเพื่อยกระดับสินค้า มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมกรุงเทพฯ และภูมิภาค และจัดหาแหล่งน้ำ[1] |
คำขวัญ | สจฺจํเว อมตา วาจา
(คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย) |
ก่อตั้ง | 6 เมษายน พ.ศ. 2489 (65 ปี) |
สำนักงานใหญ่ | 67 ถนนเศรษฐศิริ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร |
พรรคประชาธิปัตย์ (
อังกฤษ:
Democrat Party - DP,
ย่อว่า: ปชป.) ก่อตั้งเมื่อวันที่
6 เมษายน พ.ศ. 2489 เป็น
พรรคการเมืองจดทะเบียนที่เก่าแก่ที่สุดของไทยที่ยังดำเนินการอยู่
[2] พรรคมีสมาชิกที่ได้แจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองไว้ จำนวนประมาณ 2,869,363 คน มีสาขาพรรคจำนวน 190 สาขา
[3]
ปัจจุบัน พรรคประชาปัตย์เป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้ง
รัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551 โดยมี
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ดำรงตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
7
.พรรครักษ์สันติ
พรรครักษ์สันติ (
อังกฤษ:
RAK SANTI PARTY) เป็นพรรคการเมืองไทยที่ก่อตั้งขึ้นในปี
พ.ศ. 2554 โดยมีศาสตราจารย์ ร้อยตำรวจเอก ดร.
ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค มีพลตำรวจโทถวิล สุรเชษฐพงษ์ เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก และมีรองศาสตราจารย์ ดร.พรเพ็ญ เพชรสุขศิริ เป็นเลขาธิการพรรค
[2] ซึ่งพรรครักษ์สันติมีแนวความคิดที่จะแยกกรรมการบริหารพรรค ออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค เพื่อแยกงานอำนวยการกับงานการเมืองออกจากกัน
[3]
พรรครักษ์สันติ มีคำขวัญว่า "สามัคคี กินดีมีสุข ทุกที่เป็นธรรม นำชาติรุ่งเรือง" มุ่งดำเนินแนวนโยบายในการเป็นพรรคทางเลือก และเป็นกลางทางการเมือง โดยมีนักการเมือง นักวิชาการ และผู้มีชื่อเสียงเข้าร่วมงานกับพรรค อาทิ
ผศ.ดร.นพดล อินนา รศ.ดร.ชรินรัตน์ พุทธปวน วีระชัย ไชยวรรธนะ พันธ์เลิศ ใบหยก พญ.วิวรรณ นิติวรางกูร นพ.ประจวบ อึ๊งภากร พีระพงศ์ สาคริก และ
รศ.นงลักษณ์ วัฒนสิงหะ
8.พรรคกิจสังคม
พรรคกิจสังคม (
อังกฤษ:
Social Action Party) ก่อตั้งขึ้นในวันที่
4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2517[2] โดย
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช โดยให้ชื่อว่า "กิจสังคม" โดยแปลตรงตัวจาก
ภาษาอังกฤษ โดยนำชื่อพรรคมาจากพรรคการเมืองนี้ใน
ประเทศอังกฤษ
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ผู้ก่อตั้งพรรค และหัวหน้าพรรคคนแรกให้เหตุผลว่า
| อยู่ที่ความรู้สึก ว่าบ้านเมืองของเราเริ่มจะเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกๆ คนปรารถนา ที่นี้ผมเองและพวกพ้อง ลูกศิษย์ ลูกหาที่เขาทำการงานไปแล้วหลายคน มาคิดกันว่า ประชาธิปไตย นี่ความจริงก็เป็นสิ่งที่ เราต้องการกันทุกคนในเมืองไทย
แต่เมื่อมีประชาธิปไตยแล้ว มันก็ไม่ควรจะคิดว่า เราจะได้อะไรจากประชาธิปไตย เราควรจะคิดว่าเราจะให้อะไรแก่ ประชาธิปไตย ซึ่งเราทุกคนปรารถนานั้นได้ เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว เราก็อยากให้เท่าที่เรามีจะให้ได้คือ ก็เรียกว่าประสบการณ์ของเรา ความสามารถของเรา ความเสียสละ และความจริงใจของเราที่จะ ทำประโยชน์ต่อบ้านเมือง
เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว เรายังเห็นว่า บ้านเมืองนี้ ยังต้องการคนที่พร้อมจะเสียสละ ทำการงานอีกมาก โดยที่ไม่หวังอะไรตอบแทน ก็เลยตั้งพรรค (กิจสังคม) นี้ขึ้น เพื่อที่จะมีส่วนเข้าส่งเสริม แล้วก็รักษาระบอบประชาธิปไตย แล้วก็ทำการงานให้บ้านเมืองตามระบอบประชาธิปไตยจะอำนวยให้ | |
9.พรรคไทยเป็นไท
พรรคไทยเป็นไท |
|
ผู้นำ | นายพงศ์สุชิน วีระกิธพานิช (รักษาการ) |
ประธานที่ปรึกษา | นายกุศลหมีเทศริ์ ศรีอารวงศา |
นโยบาย | เชิดชูสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ให้ดำรงอยู่คู่ชาติไทย ขันอาสาปลดหนี้ให้คนไทยทุกคน ๆละไม่เกิน 5 แสนบาท |
ก่อตั้ง | 9 ธันวาคม พ.ศ. 2541 |
สำนักงานใหญ่ | 81/9-10 ม.2 ต.บ้านกร่าง อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย 64170 |
พรรคไทยเป็นไท (Thais is Thai Party - TIP.) เป็น
พรรคการเมือง ก่อตั้งเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2541 ในชื่อ
พรรคเกษตรมหาชน[1] โดย นายชูชาติ ประธานธรรม (ชื่อเดิม "ปราบสะดา หมีเทศ" หรือ
กุศล หมีเทศ หรือ "กุศล หมีเทศทอง" หรือ "ดารัณ หมีเทศ" ) เป็นหัวหน้าพรรค และต่อมาเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น
พรรคคนขอปลดหนี้ โดยมติที่ประชุมใหญ่ เมื่อวันที่
27 เมษายน พ.ศ. 2546[2]
เมื่อวันที่
27 เมษายน พ.ศ. 2549 พรรคคนขอปลดหนี้ได้จัดประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 1/2549 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคโดยเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น
พรรคไทยเป็นไท
ปัจจุบันพรรคไทยเป็นไท มีจำนวนสมาชิกมากกว่า 326,000 คน
[3] และมีนายพงศ์สุชิน วีระกิธพานิช รองหัวหน้าพรรคทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรค
10.พรรคภมิใจไทย
พรรคภูมิใจไทย (
ย่อว่า: ภท.) ก่อตั้งเมื่อ
5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 มี
นายพิพัฒน์ พรมวราภรณ์ เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก
นายมงคล ศรีอ่อน เป็นเลขาธิการพรรคคนแรก และ
นางวันเพ็ญ ขวัญวงศ์ เป็นโฆษกพรรคคนแรก
[2]
ในปัจจุบันมี
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค
นางพรทิวา นาคาศัย เป็นเลขาธิการพรรค และ
นายศุภชัย ใจสมุทร เป็นโฆษกพรรค
11.พรรคแทนคุณแผ่นดิน
พรรคแทนคุณแผ่นดิน (
อังกฤษ:
Thaen Khun Phaendin Party) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่
9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 โดย
กลุ่มแทนคุณแผ่นดินอีสาน นำโดย
วิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ อดีต ส.ส.
กาฬสินธุ์ พรรคไทยรักไทย ที่แยกตัวออกมา
พรรคพลังประชาชน เนื่องจากนายวิวรรธนไชยอ้างว่า นาย
สมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้เคยพูดจาดูถูกคนอีสานไว้ในอดีต จึงไม่อาจยอมรับได้
[1]
เดิมจะใช้ชื่อว่า
พรรคแทนคุณแผ่นดินอีสาน[2] เนื่องจากมีเป้าหมายจะเป็นพรรคที่มีบทบาทในพื้นที่
ภาคอีสานโดยเฉพาะ แต่ต่อมาได้ยุบเลิกไป
[3] และจัดตั้ง
พรรคแทนคุณแผ่นดิน ขึ้นมาใหม่ โดยมี ดร.
มานะ มหาสุวีระชัย อดีต ส.ส.
ศรีสะเกษ พรรคพลังธรรมและ
พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้สมัคร
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นหัวหน้าพรรค
พรรคแทนคุณแผ่นดิน มีสมาชิกจำนวนกว่า 6,174 คน สาขาจำนวน 5 สาขา มีสำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 16 ซอยลาซาน 42 เขตบางนา กรุงเทพ โดยมีนายวิชัย ศิรินคร เป็นหัวหน้าพรรค
12.พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย
พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย (The Farmer Network of Thailand Party)
ตัวย่อ : พนท. เป็น
พรรคการเมืองใน
ประเทศไทย จดทะเบียนก่อตั้งพรรคเมื่อวันที่
20 มิถุนายน พ.ศ. 2549[1]
เป็นพรรคที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่
25 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ในช่วงที่กลุ่ม
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยเปลี่ยนสถานะจากเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย ที่เข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้ด้วย โดยมีเจตนารมย์จะเป็นพรรคการเมืองภาคประชาชน มุ่งเน้นนโยบายไปที่
เกษตรกรและชั้นชนใช้แรงงานในสังคม
13.พรรคการเมืองใหม่
พรรคการเมืองใหม่ (
อักษรย่อ: ก.ม.ม.
อังกฤษ:
New Politics Party - NPP) รหัสบริจาคภาษีให้พรรค 076 เป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยมีพื้นฐานมาจากกลุ่ม
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่
2 มิถุนายน พ.ศ. 2552 และจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่
4 มิถุนายน พ.ศ. 2552 โดยมี
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข เป็นหัวหน้าพรรค
นายสุริยะใส กตะศิลา เป็นเลขาธิการพรรค และ
พล.ร.ท. ประทีป ชื่นอารมณ์ เป็นโฆษกพรรค
ปัจจุบัน มีนาย
สมศักดิ์ โกศัยสุข เป็นหัวหน้าพรรค หลังจากการลาออกไปของนาย
สนธิ ลิ้มทองกุล[1]
สีประจำพรรค คือ
สีเหลือง หมายถึงการเชิดชู
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และ
สีเขียวหมายถึงการเมืองสะอาดปลอดมลพิษ
14.พรรคชาติไทยพัฒนา
พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นพรรคการเมืองที่รองรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จาก
พรรคชาติไทย ซึ่งถูกตัดสินยุบพรรคเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ซึ่ง ณ เวลานั้น เหลือ ส.ส. ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ 13 คน จึงย้ายมาสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนาทั้งหมด ต่อมาในการเลือกตั้งซ่อมเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2552 พรรคชาติไทยพัฒนาได้รับเลือกตั้ง 10 คน และปลายเดือนมกราคม ปีเดียวกัน มีสมาชิกจากอดีต
พรรคมัชฌิมาธิปไตย ย้ายเข้าพรรคชาติไทยพัฒนา 2 คน รวมทั้งหมด 25 คน
[3]
15.พรรคมาตุภูมิ
พรรคมาตุภูมิ |
|
ผู้นำ | พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน |
เลขาธิการ | มั่น พัธโนทัย |
โฆษก | วิริยะ ลิขิตวงศ์ |
นโยบาย | สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ประเทศชาติ ธำรงไว้ซึ่งศาสนา พิทักษ์และเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งปกปักษ์และส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของชาติ ตลอดจนจะยึดมั่นในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนคนไทย[1] |
คำขวัญ | รักมาตุภูมิ เทิดทูนคุณธรรม |
ก่อตั้ง | 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 |
สำนักงานใหญ่ | 555 อาคารเบญจมาศ ชั้น 5 ถนนร่วมจิตร์ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร |
พรรคมาตุภูมิ (
อังกฤษ:
Matubhum Party) ก่อตั้งขึ้นในวันที่
3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 เดิมชื่อพรรคราษฎร และเปลี่ยนชื่อเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
[2] ในระยะแรกพรรคราษฎร ยังไม่มีบทบาททางการเมือง เนื่องจากไม่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัด
ต่อมากิจการของพรรคมาตุภูมิ ได้ถูกรื้อฟื้นอีกครั้ง ในปลายปี
พ.ศ. 2551 ภายหลัง
คดียุบพรรคใหญ่หลายพรรค นายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พร้อมด้วยสมาชิก ส.ส.กลุ่มวาดะห์ และกลุ่มปากน้ำของนาย
วัฒนา อัศวเหม ย้ายเข้ามาสังกัดพรรค
[3]
นอกจากนี้แล้ว พรรคมาตุภูมิ ยังมีบทบาทเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อมีข่าวว่ามีการเชิญ พลเอกสนธิ บุญยรัตนกลิน เป็นประธานพรรค
[4] และรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคในเวลาต่อมา
[5]
16.พรรคมหาชน
การเริ่มต้นของพรรคมหาชน มี
พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ เป็นแกนนำ โดยนโยบายพรรคมหาชนในระยะแรก ร่างโดย
ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตรองหัวหน้า
พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งลาออกจากพรรค มาพร้อมกับพลตรีสนั่น นำเสนอนโยบายว่าเป็นพรรคทางเลือกที่สาม นอกเหนือจาก
พรรคไทยรักไทย และ
พรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ตามมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์โจมตีว่า พรรคตั้งขึ้นมาเพื่อแย่งชิงฐานเสียงของ พรรคไทยรักไทย ในภาคเหนือ และจะร่วมมือจัดตั้งรัฐบาลกับ พรรคประชาธิปัตย์ ในภายหลัง
[ต้องการอ้างอิง]
เมื่อแรกก่อตั้งพรรค พลตรีสนั่น ได้เชิญ
นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้า
พรรคประชาธิปัตย์ ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ
องค์การการค้าโลก และกำลังจะหมดวาระ ให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคมหาชน แต่นายศุภชัยปฏิเสธ และต่อมาพิจารณารับตำแหน่งอื่นในสหประชาชาติต่อ พลตรีสนั่นจึงยกให้ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นหัวหน้าพรรคแทน
วันที่
29 ตุลาคม พ.ศ. 2550 พลตรีสนั่น พร้อมด้วยนาย
ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชาย และสมาชิกพรรคมหาชน เดินทางไปสมัครเป็นสมาชิก
พรรคชาติไทย โดยให้เหตุผลว่ากฎหมายพรรคการเมืองปัจจุบันไม่เอื้อต่อการดำเนินงานของพรรคการเมืองขนาดเล็ก ถือเป็นการสิ้นสุดการดำเนินงานของพรรคมหาชนไปโดยบริยาย
[4]
17.พรรคประชาสันติ
พรรคประชาสันติ เดิมก่อตั้งขึ้นโดยมีชื่อว่า
"พรรคธรรมาธิปัตย์" โดยมี
ธันวา ไกรฤกษ์ เป็นหัวหน้าพรรค
[1] ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อพรรคเป็น "ประชาสันติ"
[2]
ต่อมาในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2554 พรรคประชาสันติ ได้ประกาศร่วมงานทางการเมืองกับ
ศ.ดร.ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ พันธุ์เลิศ ใบหยก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผศ.ดร.นพดล อินนา และ
พล.ต.อ.พิชิต ควรเดชะคุปต์ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน โดยมีเป้าหมายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
[3] แต่ต่อมา ดร.ปุระชัย และสมาชิกอีกจำนวนหนึ่งได้ออกไปจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่
[4] คือ
พรรครักษ์สันติ
18.พรรคความหวังใหม่
พรรคความหวังใหม่ (
อังกฤษ:
New Aspiration Party,
ย่อว่า ควม.) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่
11 ตุลาคม พ.ศ. 2533 โดยมี
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นหัวหน้าพรรค และ
น.ต.ประสงค์ สุ่นสิริ เป็นเลขาธิการพรรค ร่วมด้วยนักการเมืองที่มีชื่อเสียงเช่น
นายเสนาะ เทียนทอง นายจาตุรนต์ ฉายแสง และ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา มีสัญลักษณ์พรรคคือ
ดอกทานตะวัน และมีคำขวัญพรรคว่า
ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง
พรรคความหวังใหม่ ลงเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อวันที่
22 มีนาคม พ.ศ. 2535 ได้เป็นฝ่ายค้าน และหลังจากนั้นไม่นานก็เกิด
เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ และ พรรคความหวังใหม่ เป็นหนึ่งในบรรดา 4 พรรคการเมือง ที่เรียกกันในช่วงเวลานั้นว่า
พรรคเทพ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ร่วมกันคัดค้าน การขึ้นดำรงตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรีของ
พล.อ.สุจินดา คราประยูร
พรรคความหวังใหม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งเมื่อปลายปี
พ.ศ. 2539 ได้ที่นั่ง ส.ส. จำนวน 125 ที่นั่ง โดยเฉือนชนะ
พรรคประชาธิปัตย์ พรรคคู่แข่งสำคัญไปเพียง 2 ที่นั่ง ส่งผลให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี
พรรคความหวังใหม่ มีฐานเสียงส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชนบท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ภาคอีสาน หลังจากพล.อ.ชวลิต ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี จากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำเป็นอย่างมากในปี
พ.ศ. 2540 จากการประกาศลดค่าเงินบาท และทำให้ระหว่างปี
พ.ศ. 2540-
2544 พรรคความหวังใหม่ต้องเปลี่ยนสถานะไปเป็น พรรคฝ่ายค้าน
19.พรรคพลังคนกีฬา
พรรคพลังคนกีฬา ได้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งใน
การเลือกตั้ง พ.ศ. 2554เป็นครั้งแรก โดยมีหมายเลขประจำพรรค คือ หมายเลข 36 ประกอบด้วยผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อจำนวน 103 คน ซึ่งพรรคพลังคนกีฬา ได้นำเสนอนโยบายการให้คนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อยุติปัญหาทางการเมือง โดยเสนอให้นาย
ศุภชัย พานิชภักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี และนายวนัสธนา สัจจกุล หัวหน้าพรรคฯ จะขอเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะได้ใช้กีฬาสร้างความปรองดองในชาติ
[4]
20.พรรคไทยสร้างสรรค์
ในช่วงแรกของการก่อตั้งนั้นเป็นการรวมตัวกันของผู้ความสนใจการเมือง จึงมีการก่อตั้งพรรคขึ้นในวันที่
15 กันยายน พ.ศ. 2553 โดยมี นายวิบูลย์ แสงกาญจนวนิช เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก และมีคณะกรรมการบริหารพรรครวม 11 คน จำนวนสมาชิก 18 คน หลังจากนั้นในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553 หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค จำนวน 5 คน ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง โดยในปัจจุบันมีคณะกรรมการทำหน้าที่รักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค
[3] คือ
- นายปวิตร ปานสถิตย์ ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรค
- นายประสิทธิ์ พุกเงิน ทำหน้าที่รักษาการ เสนาธิการพรรค
- นายเกรียงสิน เจริญฉิม ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียน และ เหรัญญิก
พรรคไทยสร้างสรรค์ |
|
ผู้นำ | ปวิตร ปานสถิตย์ |
เลขาธิการ | ประสิทธิ์ พุกเงิน |
นโยบาย | 1.ให้ความรู้เรื่องประชาธิปไตยแก่ประชาชน
2.สร้างค่านิยมที่ดีกับผู้นำกลุ่มต่างๆ
3.ปลูกฝังสิ่งที่ดีงามให้กับเยาวชน
4.สร้างบุคคลตัวอย่างในด้านต่างๆ ให้กับเยาวชน[1] |
ก่อตั้ง | พ.ศ. 2553 |